เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ เป็นกามโรค?

โดย เทพมนตรี ลิมปพยอม

หนังสือศิลปวัฒนธรรม ปีที่15 ฉบับที่ 9 : กรกฏาคม 2537


ลายรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าบรมโกศได้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นในพระราชสำนักอยุธยา เมื่อเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ผู้เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่และดำรงค์พระอิสริยยศเป็น สมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) สิ้นพระชนม์ด้วยพระราชอาญาโบย 180 ที ด้วยข้อกล่าวหาที่ว่า ลักลอบเข้ามาเป็นชู้กับพระสนมและเป็นกษฏที่จะลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศผู้เป็นพระราชบิดา

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวไว้อย่างชัดเจน และดูเหมือนว่าเรื่องของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์จะเป็นที่หน้าสนใจในหมู่ชาวต่างประเทศไม่น้อย โดยเฉพาะชาวฮอลันดาที่เข้ามาค้าขายในนามของ VOC (Vereningde Oost-Indische Compagnie) ได้บันทึกเรื่องราวเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ไว้กว่า 30 หน้า

สิ่งที่หน้าสนใจและทำให้ข้าพเจ้าจำเป็นต้องหยิบยกประเด็นปัญหาทางประวัติศาสตร์อยุธยาในช่วงนี้มาอธิบายก็คือ "โรคร้ายของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ "

ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ทรงประชวรด้วยโรคสำหรับบุรุษ แล้วกลายเป็นโรคคชราด (คุดทะราด) ไม่ได้เสด็จเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ 3 ปี

โรคสำหรับบุรุษที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานไทยนี้ ในหลักฐานชาวต่างประเทศ อาทิ ในหนังสือประวัติศาสตร์ไทยสมัยอยุธยา ของ นายฟรังชั่วร์ ตรุแปง ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสระบุไว้ว่าเป็น โรคที่สังคมรังเกียจ ด้วยเหตุนี้ เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์คงไม่กล้าออกมาพบปะผู้คน หรือเสด็จไปไหน นอกจากอยู่แต่ภายในพระราชวังบวรสถานมงคล

อย่างไรก็ตาม จาการวิเคราะห์หลักฐานจากเอกสารไทย ทำให้เราทราบว่า เมื่อเป็นโรคสำหรับบุรุษแล้วต่อมากลายเป็นโรคคุดทะราด (เป็นอาการขั้นสุดท้ายของโรค) ดังนั้น โรคสำหรับบุรุษที่เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ทรงเป็น จึงน่าจะหมายถึง กามโรค ชนิด ซิฟิลิส เพราะหากได้รับการรักษาไม่ดีแล้ว ขั้นสุดท้ายของซิฟิลิสอาจจะเป็นโรคคุดทะราดได้

อย่างไรก็ตาม นาย Nicolaas Bang พ่อค้าใหญ่ของ VOC ประจำอยู่ทีกรุงศรีอยุธยาได้บันทึกไว้ในจดหมายเหตุ ที่ส่งถึงข้าหลวงใหญ่ Mossel ณ กรุงปัตตาเวีย เกี่ยวกับเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ไว้ถึง 30 หน้าคือตั้งแต่หน้า 2-32 ว่าเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ทรงประชวรด้วยโรค "Morbus Gallicus" ซึ่งเป็นกามโรคชนิดหนึ่ง ภาษาอังกฤษเรียกว่า "French pox"

จากหลักฐานของนาย Nicolass Bang สามารถสรุปได้ว่า โรค "Fremch pox" (ซึ่งเป็นชื่อเรียกดังเดิม) ปัจจุบันนี้น่าจะหมายถึงโรค "Cpndyloma Accumenata" ซึ่งรู้จักกันดีในนามขอบ โรคหงอนไก่ (สมัยโบราณเรียกว่า ซิฟิลิส)

การเกิดของโรคนี้เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้เป็นพาหะของโรค หรือการปล่อยให้บริเวณอวัยวะเพศชื้นแฉะหมักหมมอยู่เป็นเวลานาน จนทำให้เชื้อเจริญเติบโตได้

อย่างไรก็ตาม อัตราการเกิดของโรคชนิดนี้กว่า 90% มีสาเหตุมาจากการมีเพศสัมพันธ์สำส่อน ทั้งนี้จะทำให้เยื่อเมือกซึ่งเป็นเนื้ออ่อนเกิดสกปรกชื้นแฉะเรื้อรังจนเกิดโรคนี้ได้

ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ จะมีเนื้องอกโผล่พ้นผิวหนังออกมาจากตุ่มเล็ก ๆ จนถึงตุ่มขนาดใหญ่ลักษณะเหมือนหงอนไก่ หรือดอกกะหล่ำปลี เวลากระทบถูกจะมีเลือดออกจนทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวด นอกจากนี้ จะมีน้ำหนองไหลซึ่งสามารถติดต่อได้ และถ้าเป็นมากก็จะทำให้ไข่ดันขาหนีบบวมโต

เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ เมื่อทรงประชวรด้วยโรคนี้ พระองค์จึงไม่เสด็จไปไหน และอาการของโรคคงจะทำให้พระองค์จำต้องรักษาพระวรกายอยู่แต่ในวังหน้าถึง 3 ปี

ในสมัยโบราณ ผู้ป่วยซึ่งเป็นโรคนี้จะได้รับการรักษาด้วยการกินยาหม้อ ถ้ารักษาไม่หายปล่อยทิ้งไว้ก็อาจจะเป็นมะเร็งได้ (ปัจจุบันใช้วิธีการรักษาด้วยการใช้ยา ไฟฟ้าและแสงเลเซอร์)

เป็นที่น่ายินดีที่ในสมัยอยุธยา ยังไม่มีโรคเอดส์เข้ามาระบาดกันอย่างมากมาย มิฉะนั้นแล้ว ในประวัติศาสตร์ไทยของเราอาจจะบันทึกเอาไว้ว่า เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ กวีเอกกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ประชวรด้วยโรค ภูมิคุ้มกันบกพร่อง อันเกิดจากเชื้อไวรัส HIV หรือ เอดส์นั่นเอง

 

| หน้าแรก |